Please select a location and what language you would like to see the website in.
ไข่มุกมิกิโมโต้
เราเฉลิมฉลองคุณค่าที่เราสืบทอดในฐานะของผู้ริเริ่มการเพาะเลี้ยงไข่มุก
ในปีค.ศ. 1893 ผู้ก่อตั้งบริษัทของเรา มร.โคคิชิ มิกิโมโต้ สามารถเพาะเลี้ยงไข่มุกได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในโลก ตั้งแต่นั้นมา มิกิโมโต้ดำเนินการอย่างมุ่งมั่นเพื่อค้นหาวิธีการและรักษาเสน่ห์ของไข่มุกเอาไว้ เพื่อให้ความฝันของเขาในการ “ประดับตกแต่งลำคอของผู้หญิงทั้งโลกด้วยไข่มุก” เป็นนิรันดร์ เรามีความภูมิใจที่จะนำเสนอไข่มุกของมิกิโมโต้อันสง่างามซึ่งมีเพียงเรา ในฐานะผู้ให้กำเนิดไข่มุกเลี้ยงเท่านั้นที่จะสามารถทำได้
“ไข่มุกมิกิโมโต้” ที่เปล่งประกายเหนือสิ่งอื่นใด
คุณภาพของไข่มุกมีเกณฑ์มากมายเป็นตัวกำหนดวัด ได้แก่ ขนาด รูปทรง สี และความเงางาม ปัจจัยสำคัญที่จะต้องมองหาคือความหนาของไข่มุก เนื่องจากสิ่งนี้จะเป็นตัวกำหนดความเงางามของไข่มุก มีเพียงไข่มุกเลี้ยงอะโกย่าที่มีความเงางามและคุณภาพระดับสูงสุดเท่านั้น ที่จะสามารถได้รับฉายาว่า “ไข่มุกมิกิโมโต้”
คุณภาพของไข่มุกมิกิโมโต้
ไม่มีไข่มุกเม็ดใดที่จะมีลักษณะเหมือนกัน แม้ว่าจะมาจากมหาสมุทรแห่งเดียวกันหรือเป็นหอยสปีชีส์เดียวกันก็ตาม เพื่อคงรักษาระดับคุณภาพของไข่มุกมิกิโมโต้เอาไว้ เราจึงใช้ไข่มุกที่มีคุณภาพดีที่สุดและตรงตามมาตรฐานที่เคร่งครัดที่สุดเท่านั้น ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ไข่มุกที่เราคัดเลือกจะผ่านมาตรฐานของเราไม่ถึงร้อยละ10 คุณภาพของไข่มุกจะถูกกำหนดโดยใช้เกณฑ์ต่างๆมากมาย และไข่มุกมิกิโมโต้ทุกเม็ดจะตรงตามมาตรฐานเหล่านั้นทั้งหมด
หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะต้องมองหาจากไข่มุกคือความเงางาม ความเงางามของไข่มุกเป็นผลมาจากคุณภาพของพื้นผิว รวมทั้งความหนาและความสม่ำเสมอของไข่มุก โดยปกติแล้ว ยิ่งไข่มุกมีความหนาเท่าไร ไข่มุกก็จะยิ่งมีความเงางามมากขึ้นเท่านั้น
สำหรับไข่มุกที่ก่อตัวขึ้นนั้น ความหนาของไข่มุกมักจะเป็นตัวชี้วัดระยะเวลาของการเลี้ยงไข่มุกที่น่าเชื่อถือได้ รวมทั้งเป็นตัวชี้วัดถึงความคงทนและคุณภาพ ยิ่งปล่อยให้ไข่มุกมีระยะเวลาเติบโตนาน ความหนาของมุกก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งไข่มุกมีรูปทรงใกล้เคียงกับทรงกลมโดยสมบูรณ์แบบมากเท่าไร จะถือได้ว่ามีคุณภาพดีมากเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ไข่มุกที่มีรูปทรงอันหลากหลายต่างๆก็ได้รับการยอมรับด้วย เช่น ไข่มุกบารอคได้รับความนิยมจากรูปทรงที่ไม่สม่ำเสมอและน่าค้นหาจนก่อให้เกิดเสน่ห์อันโดดเด่น และไข่มุกรูปทรงหยดน้ำที่ห้อยลงมาอย่างงดงาม
ขนาดของไข่มุกวัดได้จากเส้นผ่านศูนย์กลางโดยมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ตรวจดูให้แน่ใจว่าคุณเลือกขนาดที่เหมาะสมกับอารมณ์ความรู้สึกและเครื่องแต่งกายของคุณ
ไข่มุกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจะมีสีขาวและครีม ส่วนไข่มุกเลี้ยงอะโกย่าสามารถพบได้ในสีชมพู ขาว เขียว ครีม และทอง โดยทั่วไปถือว่ายิ่งมีสีสม่ำเสมอมากเท่าไร คุณภาพของไข่มุกก็จะยิ่งดีมากเท่านั้น
ไข่มุกเลี้ยงอะโกย่า
ไข่มุกเลี้ยงอะโกย่าเป็นผลิตภัณฑ์พิเศษของฟาร์มเลี้ยงไข่มุกของญี่ปุ่น ไข่มุกจากหอยมุกอะโกย่าได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวาง เนื่องจากความเงาอันงดงาม และเป็นไข่มุกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาด ส่วนมากมีขนาดตั้งแต่ 3 ถึง 8 มิลลิเมตร และมักจะมีขนาดไม่เกิน 9 มิลลิเมตร
ไข่มุกเลี้ยงเซาธ์ซีส์สีดำ
หอยมุกพันธุ์ปากดํา ซึ่งพบได้ในเฟรนช์โปลินีเซียเท่านั้น ถูกเพาะเลี้ยงเพื่อผลิตไข่มุกสีดำที่มีชื่อเสียง ไข่มุกเลี้ยงของทะเลใต้สีดำจะแสดงเฉดของสีที่หลากหลาย ตั้งแต่สีดำ เขียว น้ำเงิน เทา น้ำตาล แดงไปจนถึงสีเหลือง สีที่หายากที่สุดคือสีขนนกยูงซึ่งมีโทนสีเข้มของสีรุ้ง และมีความเงางามสูงสุดซึ่งมีลักษณะเหมือนกับขนของนกยูง
ไข่มุกเลี้ยงเซาธ์ซีส์สีขาว
ไข่มุกเลี้ยงทะเลใต้สีขาวผลิตโดยใช้หอยมุกปากเงิน ซึ่งส่วนมากพบในทะเลออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และพม่า มีแนวโน้มที่ไข่มุกเหล่านี้จะมีขนาดใหญ่กว่า 10 มิลลิเมตร สามารถพบไข่มุกที่มีขนาดกลมอย่างเกือบสมบูรณ์แบบได้ รวมทั้งรูปทรงแปลกตาต่างๆ เช่นทรงหยดน้ำ
ไข่มุกเลี้ยงเซาธ์ซีส์สีทอง
สีของไข่มุกเลี้ยงทะเลใต้มีความแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับว่าเติบโตในหอยมุกปากเงินหรือหอยมุกปากทอง ซึ่งหอยมุกปากทองนั้นได้ฉายานี้มาจากตัวหอยมุกสีน้ำผึ้งที่อยู่ภายในเปลือกหอย ไข่มุกที่เติบโตในหอยมุกปากสีทองเหล่านี้จะเรียกว่าไข่มุกทอง ซึ่งจะมีสีเหมือนแชมเปญส่งประกายสวยงามและสร้างความรู้สึกหรูหรา
ไข่มุกจากหอยสังข์ (Conch Pearl)
ไข่มุกจากหอยสังข์ผลิตจากหอยสังข์ราชินี (Queen conch) ซึ่งพบและนิยมรับประทานในแถบแคริบเบียน ส่วนมากมีสีชมพูและตามปกติจะมีรูปทรงรี ตัวอย่างที่ดีที่สุดจะมีลักษณะ "เปลวไฟ" ที่คล้ายคลื่นบนผิวของมุก
ประเภทของไข่มุก
สามารถพบไข่มุกที่สวยงามได้ในมหาสมุทรและทะเลสาบต่างๆทั่วโลก ความเงางามที่สวยและสีที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลของไข่มุกนั้นจะขึ้นอยู่กับหอยมุกที่ใช้ผลิตไข่มุกและสิ่งแวดล้อมที่เพาะเลี้ยง นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ไข่มุกแต่ละเม็ดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่งดงาม เรานำเสนอเครื่องประดับในหลากหลายรูปแบบเพื่ออวดความงามของไข่มุกประเภทต่าง ๆ
จนกว่าไข่มุกจะก่อตัวขึ้น
ขั้นตอนแรกในกระบวนการผลิตไข่มุก เป็นการเลี้ยงลูกหอยให้เติบโตจนกระทั่งมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะสร้างไข่มุกได้ ตามปกติกระบวนการที่ยากลำบากนี้จะใช้เวลาสองปี ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดของการผลิตไข่มุก คือ กระบวนการก่อตัวขึ้นเป็นไข่มุก
หอยมุกจะผลิตไข่มุกด้วยการใช้เนื้อเยื่อเจริญปลายยอดชั้นนอกชิ้นเล็กๆที่นำมาจากหอยมุกอีกตัว และนิวเคลียสที่ทำจากเปลือกหอยน้ำจืด
หลังจากการก่อตัวของไข่มุกแล้ว หอยมุกจะถูกนำไปวางในแปลงหอยมุกภายในอ่าวที่มีน้ำสงบ เพื่อให้ฟื้นตัวจากการผ่าตัดนี้ และแล้วจึงจะถูกย้ายให้ห่างจากชายฝั่งออกไปยังบริเวณที่มีการไหลเวียนแลกเปลี่ยนกระแสน้ำและคลื่นอย่างเหมาะสม ซึ่งจะเป็นที่ที่เลี้ยงหอยเหล่านี้ในขณะที่สร้างไข่มุกขึ้น
ในระหว่างช่วงฤดูหนาว การเผาผลาญอาหารของหอยมุกจะช้าลงตามธรรมชาติ ดังนั้น ชั้นเคลือบของไข่มุกจะก่อตัวขึ้นเป็นชั้นๆ อย่างแน่นหนาและเพิ่มมากขึ้น เมื่อถึงเวลาเก็บไข่มุก หอยมุกจะถูกนำขึ้นฝั่ง แกะออก และนำไข่มุกออกจากหอยด้วยมือ และแล้วไข่มุกเหล่านี้จึงจะถูกคัดแยกและคัดเกรด ซึ่งมีเพียงไข่มุกที่ดีที่สุดเท่านั้นที่จะถูกนำไปใช้เพื่อผลิตเครื่องประดับของมิกิโมโต้ เพื่อให้แน่ใจในมาตรฐานและคุณภาพในระดับอันสูงสุด
ความมุ่งมั่นและการอุทิศตนให้แก่คุณภาพอย่างที่ไม่มีใครสามารถเทียบเคียงได้
มิกิโมโต้เป็นแบรนด์เครื่องประดับชั้นนำหนึ่งในไม่กี่แห่งที่มีระบบการออกแบบ การผลิต การขาย และการบริการหลังการขายแบบครบวงจร เรามีความภาคภูมิใจกับคำมั่นของเราที่จะมอบไข่มุกที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเรา ตั้งแต่เมื่อไข่มุกก่อตัวขึ้นในทะเล ถูกแปลงโฉมให้เป็นสร้อยคอไข่มุกที่สวยงาม จนกระทั่งเมื่อลูกค้าหยิบไปสวมใส่ประดับลำคอ เราดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าของเรา สินค้าของเรามีจุดประสงค์เพื่อมอบความสุขและสดใสให้แก่บุคคลที่ได้สวมใส่ เราขอรับประกันคุณภาพในระดับที่ดีเยี่ยมที่สุดที่จะสามารถทำได้ โดยใช้ความเข้าใจที่แท้จริงของเราที่มีต่อความงามของไข่มุก
ทำให้ไข่มุกมิกิโมโต้เปล่งประกายสดใสยิ่งขึ้น
ต้องใช้เวลาอันยาวนานนับไม่ถ้วนเพื่อสร้างสรรค์ผลงานและการอุทิศตนเพื่อประกอบสร้อยคอไข่มุกแต่ละเส้น ผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะระดับสูงของเราจะคัดแยกและคัดเลือกไข่มุก เพื่อให้แน่ใจว่าไข่มุกแต่ละเม็ดที่ร้อยในสายสร้อยจะเข้ากันอย่างกลมกลืน ในด้านของสี ขนาด รูปทรง และความเงางาม ที่มิกิโมโต้ เรายึดมั่นกับการให้ความสำคัญต่อคุณภาพของการคัดเลือกไข่มุกให้เข้ากันอย่างกลมกลืน
โชคเกอร์
สร้อยไข่มุกโชคเกอร์ ซึ่งมีความยาวประมาณ 40 เซนติเมตร เหมาะสำหรับการสวมใส่กับเสื้อผ้าชุดต่างๆ ตั้งแต่แบบลำลองไปจนถึงเครื่องแต่งกายสำหรับชุดราตรี ซึ่งเป็นหนึ่งในความยาวของสร้อยที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
มาร์ตินี่
ความยาวแบบมาร์ตินี่ ซึ่งมีความยาวประมาณ 60 เซนติเมตรนั้นเหมาะสำหรับการสวมใส่ช่วงกลางวัน มิกิโมโต้เป็นแบรนด์แรกที่เรียกรูปแบบนี้ว่า “มาร์ตินี่” เนื่องจากเป็นคำในภาษาฝรั่งเศสใช้เรียกการแสดงดนตรีหรือละครที่จัดขึ้นในช่วงเวลากลางวัน สร้อยประเภทนี้มีความยาวมากพอที่จะพริ้วไหวไปมาในทุกๆการเคลื่อนไหวของคุณ
โอเปร่า
เป็นชื่อที่มิกิโมโต้ขนานนามให้เช่นกัน โอเปร่ามีความยาวประมาณ 80 เซนติเมตร เนื่องจากที่มีความยาวเป็นสองเท่าของสร้อยโชคเกอร์ สร้อยประเภทนี้จึงสามารถใช้สวมใส่ได้หลายรูปแบบอย่างน่าสนใจ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถสวมสร้อยทบรอบคอสองชั้นได้ ความยาวระดับนี้ของสร้อยคอจะเหมาะกับเครื่องแต่งกายชุดกลางคืนแบบเป็นทางการที่สุด
โรป
โรปมีความยาวประมาณ 120 เซนติเมตร ซึ่งมีความยาวเป็นสามเท่าของสร้อยโชคเกอร์ ความยาวของสร้อยแบบนี้นี้ทำให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนการสวมใส่ไปตามสไตล์ของคุณได้อย่างยืดหยุ่นที่สุด โดยสามารถสวมทบรอบคอสองชั้นหรือสามชั้นหรือผูกเป็นปมก็ได้
การออกแบบที่มีให้เลือกสรรอย่างมากมายเพื่อเน้นความโดดเด่นเฉพาะตัวของผู้สวมใส่
เรานำเสนอดีไซน์หลากหลายรูปแบบและความยาวที่แตกต่าง เพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละโอกาส และเพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับประกายอันสง่างามของสร้อยคอไข่มุกที่เข้ากันกับเครื่องแต่งกายของคุณ กรุณาแจ้งให้เราทราบหากคุณต้องการปรับความยาวของสร้อยมุกของคุณ